การเลี้ยงน้องแมว ร่วมกับเด็กเล็ก
หลายครั้งที่ผมได้พบเห็นการประการหาบ้านใหม่ให้น้องแมวด้วยสาเหตุที่ว่า เจ้าของนั้นกำลังจะมีน้องและไม่ต้องการให้น้องที่กำลังจะเกิดนั้น อยู่ไกล้กับสัตว์เลี้ยงที่เคยเลี้ยงมาก่อนอย่างแมว และยิ่งไปกว่านั้น ถ้าหาบ้านใหม่ให้น้องแมวไม่ได้ สิ่งที่เลวร้ายที่สุดคือการนำน้องแมวไปปล่อยวัด ซึ่งนี่อาจเป็นสาเหตุใหญ่สาเหตุหนึ่งเลยก็ว่าได้ที่เป็นการก่อเริ่มปัญหาหมาแมวจรจัดขึ้นในสังคมไทย
แต่จะมีใครบ้างที่พยายามหาวิธีที่จะทำให้ทั้งลูกของเราที่กำลังจะเกิด และสัตว์เลี้ยงของเรานั้นอยู่ร่วมกันได้ วันนี้ทาง "เพื่อนพ้อง น้องแมว Cats Rider" จึงจะมาแนะนำการเลี้ยงน้องแมว ร่วมกับเด็กเล็กอย่างปลอดภัยกันครับ
ต้องบอกก่อนเลยว่าการเลี้ยงแมวกับเด็กนั้น หลายๆท่านยังมีความเชื่อที่ผิดๆอยู่หลายอย่าง เช่น เชื้อพยาธิในตัวน้องแมวจะติดไปสู้เด็กน้อย , เชื่อว่าน้องแมวจะเกิดความอิจฉาเด็กน้อยและทำร้ายเด็กน้อย , หรือจะเป็นความเชื่อที่ว่า แค่เราแยกห้องระหว่างทั้งสองก็พอเพียงแล้ว
ความเชื่อที่กล่าวมาข้างต้นนี้ หลายๆสิ่งก็ยังเป็นความเชื่อที่ผิดๆ และด้านล่างนี้เป็นความเชื่อที่เราได้รวบรวมไว้และหาความจริงและวิธีแก้ปัญหาให้ได้อ่านกันครับ
ความเชื่อที่ 1 เชื้อพยาธิที่มีชื่อว่า Toxoplasma ซึ่งพบมากในแมว มีโอกาสสูงที่จะติดต่อสู่ผู้หญิงตั้งครรถ์และทำให้เกิดการแท้ง
ก่อนหน้านี้มีการแนะนำกันอย่างมากว่า ห้ามเลี้ยงแมวในบ้านที่มีหญิงตั้งครรถ์ก็เพราะสาเหตุนี้ จริงอยู่ที่แมวเป็นสัตว์ยอดนิยมที่พยาธิ Toxoplasma อาศัยอยู่ แต่การติดต่อของพยาธิไม่ได้ง่ายเหมือนกับการติดต่อทางอากาศหรือสัมผัสทางผิวหนังอย่างเช่นไวรัสทั่วไป พยาธิ Toxoplasma จะติดต่อไปสู่แมวเมื่อแมวกินเนื้อดิบหรือสัตว์เล็กที่มีพยาธินี้อยู่ ในบางโอกาสพยาธิบางตัวที่อาศัยอยู่ในดินจะชอนไชผ่านผิวหนังของแมวหากแมวยืน นั่งหรือนอนอยู่บนดินบริเวณนั้นนานๆ
การที่พยาธิจะสามารถติดต่อมาสู่คนได้ก็มีอยู่ทางเดียวคือทางปาก ซึ่งเมื่อดูจากชีวิตประจำวันแล้ว ก็มีโอกาสใหญ่ๆอยู่สองกรณีครับ คือการที่คนใช้มือสัมผัสอุจจาระของแมวแล้วมาสัมผัสอาหารเข้าปากอีกที และการที่แมวที่มีพยาธิติดอยู่ตามตัว (อาจไปเดินเล่นนอกบ้านมา) แล้วสัมผัสกับอาหารที่เราจะกินโดยไม่ผ่านการล้างหรือปรุงสุก ดังนั้นวิธีป้องกันพยาธิก็คือ การจำกัดพื้นที่แมวไม่ให้เข้ามาในบริเวณอาหาร ปรุงอาหารให้สุก และล้างผักผลไม้ให้สะอาดก่อนทาน ล้างมือให้สะอาดหลังสัมผัสแมว หลีกเลี้ยงไม่ให้หญิงตั้งครรถ์ทำความสะอาดห้องน้ำ ทรายแมว แต่หากมีความจำเป็นต้องทำจริงๆ ควรใส่ถุงมือและล้างมือให้สะอาดหลังเสร็จกิจครับ
ความเชื่อที่ 2 แมวจะเกิดอารมณ์อิจฉาและทำร้ายเด็กในขณะที่เราเผลอ
แมวส่วนใหญ่เป็นสัตว์ที่ไม่ชอบการเปลี่ยนแปลง โดยเฉพาะอย่างยิ่งสิ่งที่จะเปลี่ยนแปลงชีวิตประจำวันหรือรุกล้ำอาณาเขตของเค้า การย้ายเด็กทารกเข้ามาในบ้าน ทำให้มีการเปลี่ยนที่ และโยกย้ายเฟอนิเจอร์ในบ้านครั้งใหญ่ และก็เป็นเรื่องปกติที่เด็กทารกจะกลายเป็นจุดสนใจที่สุดในบ้าน…แทนที่แมวตัวเดิมในบ้าน แมวที่มีความเครียดเกิดขึ้นก็จะมีพฤติกรรมที่ดีและไม่ดีเกิดขึ้น แต่อย่างไรก็ตาม แมวจะไม่ทำร้ายเด็กหากไม่จำเป็นจริงๆ พยายามเฝ้าดูและชมเชยให้รางวัลกับพฤติกรรมที่ดีของเค้า แต่ไม่ควรทำโทษแมวเมื่อแสดงพฤติกรรมที่ไม่ดี เพราะว่าเค้าจะยิ่งเกิดความเครียดมากขึ้นไปอีก
ความเชื่อที่ 3 แค่เราแยกห้องระหว่างเด็กและแมวก็น่าจะเพียงพอแล้ว
แมวและสุนัขมีความสามารถในการฟังและรับกลิ่นดีกว่าคนมาก ดังนั้นการแยกห้องอาศัยระหว่างแมวและเด็กอาจจะไม่เพียงพอ เด็กทารกจะออกเสียงร้องดังและไม่เป็นที่คุ้นเคยมากสำหรับแมวไม่ว่าจะเป็นเสียงหัวเราะหรือร้องให้ เราสามารถเตรียมตัวให้เค้าคุ้นชินก่อนที่จะถึงเวลานำเด็กเข้ามาในบ้านได้โดยการเปิดเสียงเด็กให้เค้าได้ฟังบ่อยๆ เริ่มจากเสียงค่อยๆเบาๆก่อนแล้วค่อยๆเร่งเสียงไปเรื่อยๆ
กลิ่มก็เช่นเดียวกันครับ เพื่อนๆควรจะใช้แป้งและโลชั่นของเด็กกับตัวเองซะเลยก่อนเพื่อให้แมวได้ชินกับกลิ่น อีกอย่างนึงคือนำผ้าคลุม หรือผ้าห่มที่ใช้กับเด็กตอนที่อยู่ที่โรงพยาบาลกลับบ้านมาให้น้องแมวดมบ่อยๆ
และความเชื่อทั้งหมดที่ได้กล่าวมานี้ อาจจะช่วยเพิ่มความรู้และช่วยในการตัดสินใจของหลายๆท่านได้มากขึ้นนะครับ จะเห็นได้ว่าการเลี้ยงน้องแมวกับเด็กน้อยนั้น ถ้าเราเลี้ยงอย่างใส่ใจ เลี้ยงอย่างถูกกิจลักษณะ ลูกของเราก็จะสามารถอยู่กับน้องแมวได้อย่างมีความสุข และเค้าจะเติมโตมาเป็นคนที่มีจิตใจดีแน่นอน เพราะเค้าได้พบกับความเมตตาแก่สัตว์เลี้ยงตั้งแต่เด็กๆ
อย่าให้ความไม่รู้ หรือความเชื่อผิดๆมาทำให้เราทำผิดเลยนะครับ บางครั้งการที่เราเชื่อโดยการบอกเล่าต่อๆกันมา โดยเราไม่หาข้อมูลอย่างถ่องแท้ มันอาจจะทำให้เราตัดสินใจทำอะไรผิดไปอย่างมหาศาลเลยนะครับ
ขอให้น้องแมวทุกตัวบนโลกมีความสุข
สวัสดีครับ
เขียนและเรียบเรียงข้อมูลโดย
ขอบคุณภาพและข้อมูลประกอบจาก
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น